While Koh Phangan is most famous for its Full-moon party, I was seeking a quiet and relaxing escape on my visit there. After having looked through several resort options, I decided to go for one of the island’s first luxury resorts namely Panviman Resort Koh Phangan.
ถึงเกาะพงันจะขึ้นชื่อในเรื่อง Full-Moon Party มาก แต่บีไปเกาะคราวนี้ต้องการไปพักผ่อนแบบชิว ๆ และเงียบ ๆ ค่ะ หลังจากสกรีนดูโรงแรมหลายแห่งแล้ว ก็ตัดสินใจไปพักที่หนึ่งใน luxury resort แรก ๆ ของเกาะพงันเลย คือ ปานวิมาน รีสอร์ท เกาะพงันค่ะ
Panivman Resort is located on the hill on the South end of Nai Pan Noi beach, but parts of the resort also stretch down onto the beachfront. This beach is widely known to as the island’s most peaceful and rather high-end beach with several 4 and 5 star beachfront resorts. The is the area idea for couple getaways or a family vacation.
Upon arrival I felt very rejuvenated with the lush green surrounding in the resort premise. Rooms and villas are spread out in the large resort ground, so the guests get their privacy as well as their little own green areas. Walking through the trails in the resort reminded me a little of the setting of Jurassic World—in a very nice way (and I didn’t encounter any dinosaur!).
Pavinman Resort and Spa Koh Phangan ตั้งอยู่บนเขาที่ปลายหาดด้านใต้ของหาดนายปานน้อย แต่บางส่วนของรีสอร์ทก็ลงมาถึงบนหาดด้วยค่ะ หาดนี้ที่สวยงามมาก เป็นหาดที่มีรีสอร์ท 4 และ 5 ดาวเรียงกันตลอดแนวหาด เหมาะสำหรับทริปคู่รัก และทริปครอบครัวมากค่ะ
มีพื้นที่ครอบคลุมตั้งแต่หาดทราย ขึ้นไปบนเขาเลยค่ะ ภายในบริเวณรีสอร์ทรายร้อมไปด้วยต้นไม้และธรรมชาติ สวยและสงมมาก ๆ ค่ะ แขกของรีสอร์ทสามารถเดินเที่ยวขึ้นลงเนินเขาชมสวนได้ตามสบายเลย แต่ถ้าไม่อยากเดินก็สามารถนั่งรถ Shuttle ของรีสอร์ทที่มีบริการให้ตลอดเวลา
Let’s get straight to the highlights of the resort. ลองมาดูไฮไลท์ของรีสอร์ทนี้กันเลยดีกว่า
Pavinman Resort sits on the hill which protrudes into the sea. For this reason, the resort is possibly one of the best view points on the island, and their million dollar view point also allows guests to see the view of 2 bays.
ด้วยความที่รีสอร์ทนี้อยู่บนเขาที่ยื่นออกไปในทะเล ทำให้วิวจากบนรีสอร์ทจะสวยมาก ๆ และเห็นอ่าวและหน้าหาดทั้งสองด้านเลย
My most favourite spots to look at the beautiful ocean while relaxing are the at the pools and “Pan Sea” restaurant. Guess what, the pools happened to be quite spectacular and the food at the restaurant was absolutely fantastic too!
ที่สำหรับชมวิวที่บีชอบที่สุด ก็คือ ที่สระน้ำ และที่ร้านอาหาร Pan Sea ดีมาก ๆ ที่สะที่นี่ค่อนข้างจะอลังการ แลอาหารที่ร้านก็อร่อยมากเป็นพิเศษด้วยค่ะ
The small pools come in different levels on the ground, allowing guests to rest at the edge of the pools and enjoy the tropical view and vibe at various levels. The large pool is right by the edge of the hillside, and it is the best place to spoil oneself with the view of the endless horizon.
ที่นี่มีสระเล็กสระน้อยลดหลั่นลงมาหลายระดับตามแนวลาดของเขา ซี่งดีมาก ๆ เพราะทำให้แขกสามารถกระจายกันไปลงสระไปพักผ่อน ชมวิวกันอย่าง Private ค่ะ แต่สระใหญ่นี่สิ อยู่ที่ขอบเขาเลย วิวจึงสวยมากเพราะมองออกไปเห็นทะเลไปไกลเหมือนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
The view from the restaurant wasn’t any less impressive.
วิวจากร้านอาหารก็ไม่แพ้กันเช่นกัน
Pan Sea restaurant—this is where the resort’s guests have breakfast every morning. We were very impressed with the buffet breakfast during our time there. There were so much varieties and cuisines (eg. Lebanese, Moroccan, etc.) including so many vegetarians and vegan options (for example, homemade humous, falafels, couscous, roasted mediterranean vegetables, baked spinach with cheese, beetroot salad, etc.).
ร้าน Pan Sea คือที่ ๆ แขกของโรมแรมมาทานอาหารเช้ากันทุกวัน บีชอบอาหารเช้าที่นี่มาก เพราะ มีอาหารเยอะมาาาาาาากกกก และมีอาหารจากหลายชาติด้วย (พวกเลบานีส โมรอคโค ก็มีด้วย!!!) อาหารมังสวิรัติและ Vegan ก็มีเยอะด้วย สายคลีนน่าจะชอบมากค่ะ
Neighbouring Pan Sea restaurant is the Pool Deck Bar where guests can take advantage of Happy-hour cocktails. Stone Beach restaurant which is located a few steps away on the beach at the bottom of the resort is where Thai and International cuisine are served for lunch and dinner. On top of that, fresh and delicious barbecue is available there every night and is accompanied by live music!
ติด ๆ กับร้าน Pan Sea ก็มี Pool Deck Bar ซึ่งวิวสวยมาก และมี Happy Hour cocktail ช่วยเย็น ๆ ด้วยค่ะ และถ้าเดินลงไปด้านล่างหน้าหาด ก็จะไปเจอกับร้าน Stone Beach ซึ่งนอกจากจะเสิร์ฟอาหารไทยและต่างชาติในช่วงกลางวันและเย็นแล้ว ทุก ๆ เย็นจะมีบาร์บีคิวอร่อย ๆ พร้อมดนตรีสดด้วยค่ะ (เสียดายตอนบีไป ฝนตกแหลกลาน จึงไม่ได้ลองลงไปดูบรรยากาศอาหารเย็นที่นี่ค่ะ
Let’s have a look at the accommodation. Panviman has a total of 10 room types, and each type has varying layouts as the resort would like to keep each of the guests’ stays as unique as possible. ลองมาดูห้องกันนะคะ ขอบอกก่อนว่า ปานวิมาน รีสอร์ท มี Room type หรือประเภทห้อง 10 ประเภทนะคะ แลห้องแต่ละประเภทจะไม่เหมือนกันเป๊ะด้วย เพราะทางรีสอร์ทต้องการให้แขกที่มาพัก มีประสบการณ์ที่พิเศษและไม่เหมือนกับแขกท่านอื่น ๆ ด้วย
I booked a pool villa for 2 nights. The room itself is around 50 sq.m. in size, but the outdoor area was very spacious, comprises of the balcony, private pool and a jacuzzi.
สำหรับห้องที่บีอยู่คือห้อง Pool Villa ค่ะ ด้านในห้องมีบริเวณรวมประมาณ 50 ตร.ม. แต่ด้านนอกใหญ่มากค่ะ มีทั้งเฉลียง ทั้งสระส่วนตัว และอ่าง Jacuzzi ด้วยค่ะ
Several selections of pillows were available upon guest’s request.
ใครอยากได้หมอนแบบไหนเป็นพิเศษสามารถบอกทางโรงแรมได้เลยค่ะ
In summary, this is great option for travellers who are looking for complete relaxation and privacy. It had all the facilities one would expect from a luxury resort, and the staff team also kept me very happy at all times during my stay there. The name “Panviman” in Thai translates to “Like Paradise” in English, and it wouldn’t be a lie to say being in this resort is quite like being in a tropical paradise.
สรุปแล้ว รีสอร์ทนี้เหมาะมากสำหรับใครที่ต้องการไปพักผ่อนเต็มสตรีม และต้องการความเป็นส่วนตัวค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกและ Facillities ที่นี่เพรียบพร้อม และทีมเจ้าหน้าที่ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสบริการดีมาก อยู่สบายสมชื่อ “ปานวิมาน” จริง ๆ ค่ะ
To visit Panviman Resort Koh Phangan’s official website, visit:
http://www.panvimanresortkohphangan.com/
Bee Xoomsai
Bee’s Journey
